มาตรฐานปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่รับรองโดยกรมพัฒนาที่ดิน
          ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรซึ่งเป็นองค์ประกอบการผลิตในระดับไร่นา เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ฟื้นฟูและปรับปรุงคุณภาพดินป้องกันโรค โดยกรมพัฒนาที่ดินได้กำหนดมาตรฐานเพื่อการออกใบอนุญาตให้ใช้เครื่อง
หมายรับรองมาตรฐานตามระเบียบกรมพัฒนาที่ดิน จำนวน 13 ชนิด มีรายละเอียดดังนี้

          1. สารเร่งประเภทจุลินทรีย์สำหรับทำปุ๋ยหมัก
     เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีความสามารถสูงในการย่อยสลายวัตถุอินทรีย์เพื่อผลิตปุ๋ยหมัก มาตรฐานกำหนด คือ
1.1. ปริมาณแบคทีเรียย่อยสลายเซลลูโลสไม่น้อยกว่า 1.0x107เซลล์ต่อกรัม ที่อุณภูมิ 30 และ 45 องศาเซลเซียส
1.2. ปริมาณย่อยสลายเซลลูโลส ไม่น้อยกว่า 1.0x107 เซลล์ต่อกรัม ที่อุณหภูมิ 30 และ 45 เซลเซียส
1.3. ปริมาณจุลินทรีย์ย่อยสลายเซลลูโลสทั้งหมด ไม่น้อยกว่า 1.0x1010 เซลล์
1.4. ปริมาณความชื้นของผลิตภัณฑ์สารเร่ง ไม่เกินร้อยละ 10 โดยน้ำหนัก
1.5. ทดสอบประสิทธิภาพการย่อยสลายวัตถุอินทรีย์จากฟางข้าวเป็นเวลา 30 วัน ประเมินได้จากค่าอัตราส่วน
คาร์บอนต่อไนโตรเจน ไม่เกิน 20:1

          2. สารเร่งประเภทจุลินทรีย์สำหรับทำน้ำหมักชีวภาพ
     เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการออกซิเจนในการย่อยสลายวัตถุอินทรีย์ในรูปของเหลวเพื่อผลิตน้ำหมักชีวภาพ
มาตรฐานที่กำหนด คือ
2.1. ปริมาณยีสต์ ไม่น้อยกว่า 1.0x107 เซลล์ต่อกรัม
2.2. ปริมาณแบคทีเรียผลิตกรดอินทรีย์ ไม่น้อยกว่า 1.0x107 เซลล์ต่อกรัม
2.3. ปริมาณแบคทีเรียที่ย่อยสลายโปรตีน ไม่น้อยกว่า 1.0x107 เซลล์ต่อกรัม
2.4. ปริมาณจุลินทรีย์ทั้งหมด ไม่น้อยกว่า 1.0x1010 เซลล์
2.5. ปริมาณความชื้นผลิตภัณฑ์สารเร่ง ไม่เกินร้อยละ 10 โดยน้ำหนัก
2.6.ทดสอบประสิทธิภาพการหมักกับผัก ได้แก่ ผักกะหล่ำปลี หรือผักกวางตุ้ง หมักเป็นเวลา 14 วัน โดยค่าความเป็นกรด
เป็นด่างลดลงไม่เกิน 4

           3. สารเร่งประเภทจุลินทรีย์สำหรับผลิตเชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืช
      มีความสามารถควบคุมเชื้อสาเหตุโรครากและโคนเน่าได้ดี มาตรฐานที่กำหนด คือ
3.1. ปริมาณ Trichoderma sp. ทั้งหมด ไม่น้อยกว่า 1.0x107 เซลล์ต่อกรัม
3.2. ปริมาณความชื้นของผลิตภัณฑ์สารเร่ง ไม่เกินร้อยละ 10 โดยน้ำหนัก

           4. ปุ๋ยหมัก (เกรด 1)
      ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดไม่เป็นของเหลวที่ปริมาณอินทรียวัตถุไม่ต่อกว่าร้อยละ 30 ของน้ำหนัก ได้หรือทำจากวัตถุอินทรีย์และ
ผ่านการย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์ จนแปรสภาพจากรูปเดิม เมื่อนำไปให้พืชจะให้ธาตุอาหารที่จำเป็นแก่พืช
โดยมาตรฐานที่กำหนด คือ
4.1. ปริมาณอินทรียวัตถุรับรอง (Organic Matter) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของน้ำหนัก
4.2. อัตราส่วนคาร์บอนไนโตรเจน (C/N Ratio) ไม่เกิน 20:1
4.3. ค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity) ไม่เกิน 10 เดซิซีเมนส์ต่อเมตร
4.4. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5-8.5
4.5. ปริมาณโซเดียม (Na) ไม่เกินร้อยละ 1 โดยน้ำหนัก
4.6. ปริมาณธาตุอาหารหลัก
     - ไนโตรเจนทั้งหมด (Total N) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของน้ำหนัก
     - ฟอสฟอรัสทั้งหมด (Total P2O5) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของน้ำหนัก
     - โพแทสเซียมทั้งหมด (Total K2O) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของน้ำหนัก
4.7. ความชื้นไม่เกินร้อยละ 30 ของน้ำหนัก
4.8. ขนาดของปุ๋ยไม่เกิน 12.5 x 12.5 มิลลิเมตร
4.9. ปริมาณหิน และกรวด ขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป ไม่เกินร้อยละ 2 ของน้ำหนัก
4.10. ต้องไม่พบเศษพลาสติก แก้ว วัสดุมีคม หรือโลหะอื่นๆ
4.11. ปริมาณธาตุโลหะหนัก
     - Arsenic (As)              ไม่เกิน    50            มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Cadmium (Cd)         ไม่เกิน      5            มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Chromium (Cr)        ไม่เกิน    300          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Copper (Cu)               ไม่เกิน    500          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Lead (Pb)                    ไม่เกิน    500          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Mercury (Hg)            ไม่เกิน        2          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
4.12. การย่อยสลายที่สมบูรณ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

           5. ปุ๋ยหมัก (เกรด 2 )
      ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดไม่เป็นของเหลวที่มีปริมาณอินทรียวัตถุไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนักได้หรือทำมาจากวัตถุอินทรีย
ซึ่งผลิตด้วยกรรมวิธีทำให้ชื้นสับ หมัก บด ร่อน สกัด หรือด้วยวิธีการอื่น และวัสดุอินทรีย์ถูกย่อยสลายสมบูรณ์
ด้วยจุลินทรีย์ แต่ไม่ใช่ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยชีวภาพ มาตรฐานที่กำหนด คือ
5.1. ปริมาณอินทรียวัตถุรับรอง (Organic Matter) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนัก
5.2. อัตราส่วยคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N Ratio) ไม่เกิน 20:1
5.3. ค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity) ไม่เกิน 10 เดซิซีเมนส์ต่อเมตร
5.4. ปริมาณโซเดียม (Na) ไม่เกินร้อยละ 1 โดยน้ำหนัก
5.5. ปริมาณธาตุอาหารหลัก
     - ไนโตรเจนทั้งหมด (Total N) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.0 ของน้ำหนัก
     - ฟอสฟอรัสทั้งหมด (Total P2O5 ) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของน้ำหนัก
     - โพแทสเซียมทั้งหมด (Total K2O) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของน้ำหนัก
หรือมีปริมาณธาตุอาหารหลักรวมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของน้ำหนัก
5.6. ปริมาณความชื้นของปุ๋ยหมักไม่เกินร้อยละ 30 ของน้ำหนัก
5.7. ขนาดของปุ๋ยไม่เกิน 12.5x12.5 มิลลิเมตร
5.8. ปริมาณหิน และกรวด ขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป ไม่เกินร้อยละ 2 ของน้ำหนัก
5.9. ต้องไม่พบเศษพลาสติก แก้ว วัสดุมีคม หรือโลหะอื่นๆ
5.10. ปริมาณธาตุโลหะหนัก
     - Arsenic (As)              ไม่เกิน    50            มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Cadmium (Cd)         ไม่เกิน      5            มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     -  Chromium (Cr)        ไม่เกิน    300          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Copper (Cu)               ไม่เกิน    500          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Lead (Pb)                    ไม่เกิน    500          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Mercury (Hg)            ไม่เกิน        2          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
5.11. การย่อยสลายที่สมบูรณ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
หมายเหตุ : เป็นมาตรฐานขั้นต่ำตามพระราชบัญญัติปุ๋ย ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2550)

            6. ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง
      ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดไม่เป็นของเหลวที่มีปริมาณธาตุอาหารหลักรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 9 และไม่เกินร้อยละ 20 โดยน้ำหนักโดยได้จากการนำวัสดุอินทรีย์ และหรืออนินทรีย์ธรรมชาติทางการเกษตรที่มีธาตุอาหารสูงมาผ่าน
กระบวนการหมักจนสลายตัวสมบูรณ์ หรือการนำปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านการสลายตัวสมบูรณ์แล้วผสมกับวัสดุอินทรีย์
และหรืออนินทรีย์ธรรมชาติทางการเกษตรที่มีธาตุอาหารสูงมาตรฐานที่กำหนดคือ

6.1. ปริมาณอินทรียวัตถุรับรอง (Organic Matter) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนัก
6.2. อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N Ratio) ไม่เกิน 20:1
6.3. ค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity) ไม่เกิน 15 เดซิซีเมนส์ต่อเมตร
6.4. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5-10
6.5. ปริมาณโซเดียม (Na) ไม่เกินร้อยละ 1 โดยน้ำหนัก
6.6. ปริมาณธาตุอาหารหลัก
     - ไนโตรเจนทั้งหมด (Total N) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.0 ของน้ำหนัก
     - ฟอสฟอรัสทั้งหมด (Total P2O5 ) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.5 ของน้ำหนัก
     - โพแทสเซียมทั้งหมด (Total K2O) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.0 ของน้ำหนัก
และธาตุอาหารหลักรวมกันปริมาณไม่น้อยกว่าร้อยละ 9 และไม่เกินร้อยละ 20 ของน้ำหนัก
6.7. ปริมาณความชื้นของปุ๋ยหมักไม่เกินร้อยละ 30 ของน้ำหนัก
6.8. ขนาดของปุ๋ยไม่เกิน 12.5x12.5 มิลลิเมตร
6.9. ปริมาณหิน และกรวด ขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป ไม่เกินร้อยละ 2 ของน้ำหนัก
6.10. ต้องไม่พบเศษพลาสติก แก้ว วัสดุมีคม หรือโลหะอื่นๆ
6.11. ปริมาณธาตุโลหะหนัก
     - Arsenic (As)              ไม่เกิน    50            มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Cadmium (Cd)         ไม่เกิน      5            มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Chromium (Cr)        ไม่เกิน    300          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Copper (Cu)               ไม่เกิน    500          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Lead (Pb)                    ไม่เกิน    500          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Mercury (Hg)            ไม่เกิน        2          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

          7. น้ำหมักชีวภาพ
     น้ำหมักชีวภาพประกอบด้วยกรดอินทรีย์ และฮอร์โมนหรือสารเสริมการเจริญเติบโตของพืชหลายชนิด โดยได้จากกระบวนการย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ในรูปของเหลว มาตรฐานที่กำหนด คือ
7.1. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ไม่เกิน 4.0
7.2. ค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity) ไม่เกิน 20 เดซิซีเมนส์ต่อเมตร
7.3. ปริมาณฮอร์โมน
     - ออกซิเจน          ไม่น้อยกว่า            0.1           มิลลิกรัมต่อลิตร
     - จิบเบอร์เรลลิน ไม่น้อยกว่า            5.00         มิลลิกรัมต่อลิตร
     -ไซโตไคนิน       ไม่น้อยกว่า            1.00         มิลลิกรัมต่อลิตร
7.4. ปริมาณกรดฮิวมิก  ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 โดยน้ำหนัก
     - Arsenic (As)              ไม่เกิน    3.0           มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Cadmium (Cd)         ไม่เกิน    2.0          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     -  Chromium (Cr)        ไม่เกิน    5.0          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Copper (Cu)               ไม่เกิน    50.0         มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Lead (Pb)                    ไม่เกิน    3.0          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Mercury (Hg)            ไม่เกิน    0.5          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Zinc (Zn)                    ไม่เกิน     300.0      มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

            8. ยิปซัม
      ยิปซัมเป็นสารปรับปรุงบำรุงดิน องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแคลเซียมซัลเฟต ทางการเกษตรใช้ในการปรับปรุงดิน
เค็ม เพื่อแก้ปัญหาความเค็มของดิน และปรับปรุงดินกรด เพื่อลดความเป็นพิษของอะลูมินัมในดินกรด มาตรฐานที่กำหนด คือ
8.1. เป็นยิปซัมที่เกิดจากธรรมชาติ (ระบุแหล่ง)
8.2. ปริมาณแคลเซียมซัลเฟต (CaSo4.2H2) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 โดยน้ำหนัก
8.3. ปริมาณความชื้นไม่เกินร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก
8.4. ขนาดอนุภาคมีความละเอียดสามารถร่อนผ่านตะแกรงขนาด 2.38 มิลลิเมตร (8 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 โดยน้ำหนัก และจะต้องผ่านตะแกรงร่อนขนด 0.25 มิลลิเมตร (60 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 โดยน้ำหนัก
8.5. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ไม่น้อยกว่า 7.0
8.6. สำหรับยิปซัมที่ไม่ใช่มาจากแหล่งธรรมชาติ ต้องมีโลหะหนัก และกัมมันตภาพรังสีในปริมาณต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดว่าเป็นพิษ
     - Arsenic (As)               ไม่เกิน      50          มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Cadmium (Cd)            ไม่เกิน         5        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Chromium (Cr)           ไม่เกิน     300        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Copper (Cu)               ไม่เกิน     500        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Lead (Pb)                   ไม่เกิน     500        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Mercury (Hg)              ไม่เกิน        2         มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Zinc (Zn)                     ไม่เกิน    600         มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

           9. ปูนมาร์ลหรือดินมาร์ล
     ปูนมาร์ลหรือดินมาร์ลเป็นสารปรับปรุงดิน องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCo3) และดินเหนียว มีสีขาว หรือขาวขุ่นปนน้ำตาล ใช้ปรับปรุงดินเพื่อแก้ความเป็นกรดของดิน มาตรฐานที่กำหนด คือ
9.1. มีค่าความสามารถในการทำให้เป็นกราง ( CCE) ไม่น้อยกว่า 20 มีค่า CaO (calcium oxide) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40
9.2. ขนาดอนุภาค มีค่าความละเอียด สามารถร่อนผ่านตะแกรงขนาด 2.38 มิลลิเมตร (8 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 โดยน้ำหนัก และจะต้องผ่านตะแกรงร่อนขนาด 0.177 มิลลิเมตร (80 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 โดยน้ำหนัก
9.3. ปริมาณความชื้นไม่เกินร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก
9.4. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ไม่น้อยกว่า 8.0

         10. หินปูนบดหรือหินปูนฝุ่น
หินปูนบดหรือหินปูนฝุ่นเป็นสารปรับปรุงดิน  ได้จากหินชั้นในหรือหินตะกอนที่ประกอบด้วย แคลเซียมคาร์บอเนต เป็นส่วนใหญ่ ใช้ในการปรับปรุงดินเพื่อแก้ความเป็นกรดของดิน หินปูนบดที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงควรมีสีเทา เทานวล เทาขาว มาตรฐานที่กำหนด คือ
10.1. มีค่าความสามารถในการทำให้เป็นกลาง ไม่น้อยกว่า 85 มี CaO ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 40
10.2. ขนาดอนุภาค มีความละเอียดคละกันสามารถผ่านตะแรงร่อนขนาด 2.38 มิลลิเมตร (2 เมช)  ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 โดยน้ำหนัก และในจำนวนนั้นต้องผ่านตะแกรงร่อนขนาด 0.177 มิลลิเมตร  (80 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 โดยน้ำหนัก
10.3. ปริมาณความชื้นไม่เกินร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก
10.4. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ไม่น้อยกว่า 8.0

          11. โดโลไมท์
     โดโลไมท์เป็นสารปรับปรุงดิน ได้จากแร่ที่เกิดจากตะกอนของแคลเซียมและแมกนีเซียมทับถมกัน [CaMg (CO3)2] มีสีต่างๆ กัน เช่น เทา ชมพู ขาว มีส่วนประกอบทางเคมีเป็น CaCO3 และ MgCO3 ใช้ปรับปรุงดินเพื่อแก้ความเป็นกรดของดินและยังให้ธาตุอาหารแคลเซียมและแมกนีเซียมแก่พืชอีกด้วย มาตรฐานที่กำหนด คือ
11.1. มีค่าความสามารถในการทำให้เป็นกลาง ไม่น้อยกว่า 90 มีค่า CaO ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 และมีค่า MgO (magnesium oxide) ไม่น้อยกว่า 15
11.2. ขนาดอนุภาค มีความละเอียดสามารถผ่านตะแกรงร่อนขนาด 0.177 มิลลิเมตร (80 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก
11.3. ปริมาณความชื้น ไม่เกินร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก
11.4. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ไม่น้อยกว่า 8.0

           12. ปูนขาว
     ปูนขาวเป็นสารปรับปรุงดินเพื่อแก้ความเป็นกรดของดิน เกิดจากการใช้ปูนที่เกิดในรูปของออกไซด์ ซึ่งเป็นปูนเผามาให้ได้รับความชื้น โดยกองไว้ให้ดูดความชื้นในอากาศ  หรือพรมน้ำให้ชุ่ม  ทำให้ก้อนแข็งนั้นยุ่ยแตกออกเป็นผงโดยไม่ต้องบด ปูนนี้จะกัดผิวหนังเมื่อชื้น เช่นเดียวกับปูนเผา มาตรฐานที่กำหนด คือ
12.1. มีค่าความสามารถในการทำให้เป็นกลางไม่น้อยกว่า 100 มี CaO ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50
12.2. ขนาดอนุภาค มีความละเอียดสามารถผ่านตะแกรงร่อนขนาด 0.177 มิลลิเมตร (80 เมช) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยน้ำหนัก
12.3. ปริมาณความชื้น ไม่เกินร้อยละ 5 โดยน้ำหนัก
12.4. ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ไม่น้อยกว่า 10.0

 13. สารสกัดอินทรีย์ (Organic extracted substance)
      สารสกัดอินทรีย์ (Organic extracted substance) เป็นสารปรับปรุงดิน ซึ่งสกัดได้จากสารอินทรีย์ธรรมชาติต่างๆ หรือดิน โดยใช้ด่างประกอบด้วยอินทรียวัตถุในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืชช่วยในการปรับปรุงสภาพดินให้มีความ
เหมาะสม ต่อการเจริญเติบโตของพืช มาตรฐานที่กำหนด คือ
13.1. เป็นสารอินทรีย์เหลวไม่มีตกตะกอน มีสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม
13.2. ปริมาณความเข้มข้นของกรดฮิวมิก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 6
13.3. ปริมาณธาตุโลหะหนัก
     - Arsenic (As)              ไม่เกิน       3.0        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Cadmium (Cd)          ไม่เกิน       2.0         มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     -  Chromium (Cr)         ไม่เกิน       5.0        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Copper (Cu)              ไม่เกิน     50.0        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Lead (Pb)                  ไม่เกิน       3.0        มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Mercury (Hg)             ไม่เกิน      0.5         มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
     - Zinc (Zn)                    ไม่เกิน  300.0         มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
13.4. มีหนังสือรับรองคุณภาพเป็นทางการจากหน่วยงานราชการ  หรือสถาบันการศึกษา หรือองค์กร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มี่หน่วยงานราชการรับรอง