จากข้อมูลทรัพยากรดินที่สำรวจพบในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถสรุปปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรดิน เรียงตามลำดับความสำคัญ และความรุนแรงของปัญหา พร้อมทั้งแนวทางในการจัดการดินเพื่อแก้ไขปัญหา ดังนี้ 1.ปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ประกอบด้วยพื้นที่ดอน และพื้นที่สูง
มีเนื้อที่ประมาณ 3,803,887 ไร่
หรือ ชะล้างพังทลายของดินอย่างกว้างขวางและรุนแรง ผลกระทบของการชะล้างพังทลายของดิน
นอกจากจะทำให้ดินเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว ผลผลิตพืชลดลงเนื่องจากการสูญเสียหน้าดินและธาตุอาหารพืชแล้ว ตะกอนดินที่ถูกชะล้างลงสู่ที่ต่ำจะไปทับถมในพื้นที่ตอนล่าง ทำให้แม่น้ำลำคลอง อ่างเก็บ แนวทางการแก้ปัญหาและการจัดการดิน 1) ไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ในกรณีที่พื้นที่มีความลาดชันไม่มากนัก (2-5 %) 2) ปลูกแถบหญ้าแฝกขวางความลาดเทของพื้นที่เป็นช่วง ๆ ในพื้นที่ที่มีความลาดเท 5 12 % โดยพื้นที่ระหว่างแถบหญ้าแฝกสามารถปลูกพืชไร่ และไม้ผลได้ 3) ในพื้นที่ที่มีความลาดชัน 12 - 35 % ควรมีการจัดทำขั้นบันไดดิน คูรับน้ำรอบเขา ร่วมกับการปลูกหญ้าแฝก เป็นต้น 4)
ควบคุมตะกอนดินที่เกิดจากการชะล้างพังทลายของดิน ในพื้นที่ที่มีความลาดชัน โดยการทำบ่อดักตะกอนดินไว้ตามร่องน้ำหรือ 2.ปัญหาความอุดมสมบูรณ์ต่ำและเสื่อมลง จากการประเมินระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์
พบว่า ดินมีระดับความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ แนวทางในการแก้ไขปัญหาและการจัดการดิน การปรับปรุงฟื้นฟูดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำและเสื่อมลง มีหลายรูปแบบดังนี้ 1) การปรับปรุงบำรุงดินโดยการใช้ปุ๋ยพืชสด ได้แก่ ปอเทือง ถั่วพุ่ม โสนอัฟริกัน เป็นต้น วิธีการคือหว่านปุ๋ยพืชสด ลงในพื้นที่ และไถกลบเมื่ออายุประมาณ 45-60 วัน เป็นวิธีการปรับปรุงบำรุงดินอย่างได้ผลในพื้นที่จำนวนมากและไม่เสียค่าใช้จ่ายสูง 2)
การปรับปรุงบำรุงดินโดยการใช้ปุ๋ยหมัก
(ผลิตจากสารเร่ง พด.1) และปุ๋ยอินทรีย์น้ำ (ผลิตจากสารเร่ง พด.2)
เป็นวิธีการ 3. ปัญหาดินตื้นมีเศษหินและลูกรังปะปนในเนื้อดิน มีเนื้อที่ประมาณ 746,622 ไร่หรือร้อยละ 15.24 ได้แก่กลุ่มชุดดินที่ 25, 46, 47, 48 และ 49 ดินเหล่านี้นอกจากจะมีความอุดมสมบูรณ์ แนวทางในการแก้ไขปัญหาและการจัดการดิน 1) เลือกชนิดพืชให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของดิน โดยต้องเป็นพื้นที่ทนแล้งได้ดี ได้แก่ พืชตระกูลถั่วต่าง ๆ 2) ปรับปรุงโครงสร้างของดิน
โดยเฉพาะชั้นดินที่มีเศษหินและก้อนกรวดปะปน โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยพืชสด
ปุ๋ยหมัก 3) ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน โดยการจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำที่เหมาะสม เช่นการปลูกแถบหญ้าแฝกของความลาดเทพื้นที่ ในพื้นที่ที่มีความลาดชัน 4. ปัญหาดินมีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทราย มีเนื้อที่ 629,670 ไร่ หรือร้อยละ 12.85 ได้แก่ กลุ่มชุดดินที่ 18, 21, 22, 24, 25, 35, 36, 38,40, 41, 44, 48, 49 และ 56 ดินที่มีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทราย นอกจากความอุดมสมบูรณ์ต่ำแล้ว ความสามารถในการอุ้มน้ำก็ต่ำด้วย จึงดูดซับน้ำได้น้อย ทำให้พืชที่ปลูกมักขาดน้ำได้ง่าย โดยเฉพาะในระยะที่ฝนทิ้งช่วง แนวทางในการแก้ไขปัญหาและการจัดการดิน 1) ปรับปรุงโครงสร้างของดิน โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่
ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก
และปุ๋ยชีวภาพ
เพื่อทำให้โครงสร้าง 2)
เลือกชนิดพืชที่ปลูกให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของดิน โดยต้องเป็นพืชไร่และไม้ผลทนแล้ง ได้แก่พืชตระกูลถั่วต่าง ๆ เป็นต้น 3) จัดทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ หรือช่วงที่ต้องการน้ำมาก 5. ปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการปลูกพืช พื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ส่วนใหญ่ปลูกพืชโดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่เนื่องจากความแปรปรวนของปริมาณน้ำฝนและการ แนวทางในการแก้ไขปัญหาและการจัดการดิน 1) ปรับปรุงดิน
โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยพืชสด
ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยชีวภาพ
เพื่อเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ 2) จัดทำแหล่งน้ำขนาดเล็ก เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงที่ขาดแคลนน้ำ |